Pokchat Worasub
decadanse
16.11.2025 - 21.12.2025
English
(HER) Lust for (HER) Life
By Chomtawan Kleuntanom / 2025

ผู้หญิงคือสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความลึกลับ และบางที “การเป็นผู้หญิง” เองก็อาจเป็นความลึกลับรูปแบบหนึ่ง ด้วยร่างกายที่สามารถให้กำเนิดชีวิตได้ อารมณ์ที่ละเอียดอ่อนซับซ้อน และความพิศวงแห่งเสน่ห์ที่ไม่เคยจางหาย ล้วนทำให้ผู้หญิงยืนอยู่ ณ ศูนย์กลางแห่งจินตนาการทางศิลปะมาอย่างยาวนาน พวกเธอถูกวาด แกะสลัก และเขียนถึงในฐานะแรงบันดาลใจ (muse) ทั้งในแง่ความงาม ราคะ และแรงปรารถนา ทว่าความจริงที่ละเอียดลึกกว่านั้นคือ ประสบการณ์ของการเป็นผู้หญิงไม่เคยหยุดนิ่ง ในยุคปัจจุบัน แนวคิดเกี่ยวกับความเป็นผู้หญิงได้กลายเป็นการต่อต้านในตัวเอง เป็นการท้าทายขนบธรรมเนียมเดิม ต่อต้านความคาดหวังของสังคมปิตาธิปไตย และการแสวงหาอิสรภาพจากกรอบของสายตาแห่งบุรุษเพศ สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นความยอมจำนน ได้ถูกนิยามขึ้นใหม่ให้กลายเป็นพลังเชิงรุก การแสดงตัวตน และแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา เป็นการทวงคืนอำนาจในการตัดสินใจผ่านการกระทำของการถูกมองเห็น

สำหรับ ปกฉัตร วรทรัพย์ แรงบันดาลใจของเธอไม่ได้เป็นเพียงภาพฝันอันเลื่อนลอยหรือสัญลักษณ์ที่อยู่ไกลเกินเอื้อม ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา เธอได้หันเลนส์กล้องไปหาผู้หญิงรอบตัว ทั้งเพื่อน คนรู้จัก หรือแม้แต่คนแปลกหน้าที่กลายมาเป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์ ซึ่งเธอได้รื้อและเขียนขอบเขตระหว่างศิลปินและแรงบันดาล (muse) ขึ้นใหม่ ผ่านแสง บทสนทนา และสัญชาตญาณ ปกฉัตรได้แปรเปลี่ยนช่วงเวลาแห่งความเปลือยเปล่าและความใกล้ชิด ให้กลายเป็นการกระทำแห่งความเข้าใจและความซื่อตรงทางอารมณ์ ผลงานของเธอชี้ให้เห็นว่าเรือนร่างคือตัวตนของมนุษย์ เป็นพื้นที่ที่เผยให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคนหนึ่งเปิดใจให้ผู้อื่นได้มองเห็นตัวตนของตนอย่างแท้จริง

ภาพถ่ายของปกฉัตร เปี่ยมไปด้วยทั้งความอ่อนโยนและความกล้าหาญ เธอเฉลิมฉลองความเป็นมนุษย์ในรูปแบบที่บริสุทธิ์ที่สุด ผ่านจังหวะของแสงที่ได้สัมผัสกับเรือนร่าง ภายในกลียุคเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในความสงบ และในความซื่อตรงของการถูกมองเห็นโดยที่ไม่ต้องเสแสร้ง โดยผ่านเลนส์ของเธอ เรือนร่างของผู้หญิงได้กลายเป็นภาษา เป็นบทสนทนาแห่งความปรารถนา ความเปราะบาง และพลังอำนาจที่ดำรงอยู่ในระดับที่เท่าเทียมกัน

หัวใจสำคัญของกระบวนการสร้างสรรค์ของปกฉัตร คือความไว้วางใจ คำง่าย ๆ ที่มีน้ำหนักอย่างมหาศาล เธอมักอธิบายว่าความไว้วางใจคือจังหวะการเต้นของหัวใจในการทำงานศิลปะของเธอ ความสัมพันธ์ระหว่างแบบและช่างภาพคือการแลกเปลี่ยนกันของศรัทธาและความเคารพ ในมุมมองของเธอ เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งถ่ายภาพโดยผู้หญิงอีกคนหนึ่ง กล้องได้กลายเป็นทั้งเครื่องมือแห่งการมองเห็นและสะพานเชื่อม ที่ซึ่งเปิดพื้นที่ให้ความใกล้ชิดเกิดขึ้นได้โดยไม่ล่วงล้ำ ก่อเกิดเป็นมิตรภาพ ที่ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นการทำงานร่วมกัน ภายในพื้นที่นั้น ศิลปินและแบบต่างมีส่วนร่วมในสมดุลอันละเอียดอ่อนระหว่างการเปิดเผย และ การปกป้อง คนหนึ่งเปิดเผยเรือนร่างและตัวตน ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นพยานในความเปลือยเปล่าเหล่านั้น

ด้วยแนวทางเช่นนี้ ปกฉัตรได้ถ่ายทอดความดิบหยาบ ที่ซ่อนอยู่บนผิวหนังมนุษย์ เธอเผยให้เห็นว่าความรู้สึก สัญชาตญาณ และแรงปรารถนา ต่างดำรงอยู่ร่วมกันอย่างซับซ้อนในร่างกายอันธรรมดาของเรา เธอเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนล้วนมีแรงดึงดูดอยู่ภายในตัว เป็นการดึงรั้งระหว่างความเย้ายวนและความเป็นอิสระ ระหว่างการแสดงออกถึงความปรารถนาและการกำหนดความหมายของมันด้วยตนเอง สำหรับปกฉัตรแล้ว ศิลปะแห่งการถ่ายภาพคือวิถีในการทำความเข้าใจมากกว่าการควบคุม เพื่อเข้าถึงสภาวะแห่งความซื่อตรงนั้น ความไว้วางใจ จึงกลายเป็นกุญแจสำคัญที่ไขข้ามพรมแดนระหว่างสิ่งที่มองเห็นกับสิ่งที่รู้สึก และในพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างสองสิ่งนั้น กล้องของเธอทำหน้าที่เป็นทั้งคู่คิดและพยานรู้เห็นที่คอยบันทึกจังหวะแห่งความดิบหยาบ ภายใต้ความอ่อนโยน ราคะ และความเป็นมนุษย์

ในผลงานของปกฉัตร การเปลือยเปล่าและเปลือยร่าง ดำรงอยู่เคียงข้างกันอย่างกลมกลืน การเปลือยเปล่า กล่าวถึงความงามในเชิงสุนทรียะ การแปรสภาพของเรือนร่างให้กลายเป็นภาพ ให้กลายเป็นศิลปะ ส่วนการ เปลือยร่าง กลับเผยให้เห็นสิ่งที่ลึกซึ้งกว่า การเปิดเผยตัวตน อารมณ์ และความเปราะบางที่อยู่เหนือโครงสร้างองค์ประกอบใด ๆ การเปลือยเปล่า คือการยอมให้ผู้อื่นมองเห็น แต่การเปลือยร่าง คือการยอมให้ผู้อื่นได้รู้จัก ปกฉัตรเชื้อเชิญให้ผู้ชมครุ่นคิดถึงทั้งสองภาวะนี้ เพื่อมองเห็นว่าความงามในผลงานของเธอไม่ได้อยู่เพียงในเรือนร่าง หากแต่อยู่ในความกล้าที่จะเปิดเผย

ผลงานของปกฉัตร อยู่ในกลุ่มของศิลปินหญิงที่กำลังเขียนภาษาทัศนศิลป์ของความปรารถนาขึ้นใหม่ ในห้วงเวลาร่วมสมัยนี้ เราได้เห็นการปรากฏของมุมมองที่ผู้หญิงมีต่อโลก (female gaze) ที่ซึ่งหันมามอง ความใคร่ ความใกล้ชิด และความงาม ไม่ใช่ในฐานะวัตถุให้ควบคุม หากแต่ในฐานะรูปแบบหนึ่งของความเข้าใจ ภายใต้กรอบคิดเช่นนี้ ความเป็นหญิงและแรงปรารถนาได้แปรเปลี่ยนจากวัตถุที่ถูกเพ่งพิจารณา มาเป็น พื้นที่ของอำนาจและการแสดงตัวตน ภาพถ่ายของปกฉัตรดำรงอยู่ในบทสนทนานี้ที่ซึ่งสายตาของผู้หญิงไม่ได้เพียงมองแต่ เป็นการเล่น การสนองสัญชาตญาณ และเปี่ยมด้วยความเป็นมนุษย์อย่างลึกซึ้ง

ตลอดทศวรรษในการทำงานทางศิลปะ ปกฉัตรเคลื่อนไหวไปมาระหว่างประเด็นและแนวคิดอย่างเป็นอิสระ ตั้งแต่การศึกษาความเปลือยเปล่าในฐานะรูปแบบทางศิลปะ ไปจนถึงการสำรวจตำนานตะวันตกและอัตลักษณ์ของชนเผ่าร่วมสมัย อย่างไรก็ตาม เส้นด้ายที่เชื่อมโยงผลงานทั้งหมดของเธอคือ การแสวงหาความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพเพื่อน คนแปลกหน้า หรือพิธีกรรมใดๆ สิ่งที่เธอให้ความสำคัญไม่ใช่เพียงภาพลักษณ์ภายนอก หากคือ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างศิลปินกับแบบ สำหรับเธอ กล้องถ่ายภาพคือ ประตู และภาพถ่ายแต่ละใบคือการก้าวเข้าสู่โลกของผู้อื่นซึ่งในอีกมิติหนึ่ง ก็เป็นภาพสะท้อนของตัวตนเธอเองเช่นกัน

นิทรรศการ Decadanse คือการเฉลิมฉลองการเดินทางอันยาวนานของศิลปิน เส้นทางที่บันทึกพัฒนาการของ ตัวศิลปิน ความเป็นหญิง และสายตาที่เชื่อมโยงทั้งสองเข้าด้วยกัน ปกฉัตรหวนกลับไปเปิดบันทึกชีวิต ของเธออีกครั้ง บันทึกซึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งอารมณ์ บทสนทนา และช่วงเวลาที่ได้แบ่งปันร่วมกับผู้คนมากมายตลอดหลายปีของการสร้างสรรค์ภาพถ่าย กว่าสิบปีแห่งการบันทึกภาพของเธอทำให้เราระลึกว่า การมอง ในความหมายที่แท้จริงนั้น คือ การรัก การโอบรับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างซื่อตรงและเปี่ยมความเข้าใจ สำหรับปกฉัตร ในความปรารถนาสำหรับชีวิต (to lust for life) คือการโอบรับทุกความย้อนแย้งของมัน ทั้งความดิบหยาบและความงาม ความขบขันและความเจ็บปวด และการค้นพบความงดงามในความไม่สมบูรณ์ที่ซื่อสัตย์ของการเป็นมนุษย์